เจ้าของผลงาน MakeMeSafe

Jiratchaya Nilsuay (Namtan)

จิรัชยา นิลสวย (น้ำตาล)

“

ไม่ต้องโค้ดให้เก่งเหมือนใครเขา แค่เข้าใจที่เราพอทำไหว

”

ninsuay.nt@gmail.com

https://www.linkedin.com/in/jiratchaya-ninsuay/

After Release

ความรู้สึกหลังจากที่จัดงานเตรียมงานจุลนิพนธ์

ภูมิใจในผลงานของตัวเองและเพื่อน ๆ เพราะว่าเราทำงงานตรงนี้กันมาเทอมนึง หรือประมาณ 6 เดือนกว่าๆ และก็มีการแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้น และอยากให้ผลงานเป็นที่รู้จักกับคนที่สนใจหรือพอเป็นแนวทางให้น้องๆ หรือคนอื่นได้

NAMTAN'S WINGBEATS

00:12

Q1: จุดเริ่มต้นของโปรเจคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

Ans: ส่วนตัว คิดว่า การบูลลี่จริงๆแล้วมันอยู่ในสังคมเรามานานมากแล้วค่ะ ไม่ว่าจะช่วงอายุไหน มอต้น มอปลาย หรือจะเป็นช่วงมหาลัย ก็อาจจะเกิดขึ้นได้กับทุกคน และมันก็ยังเป็นปัญหาที่อาจจะยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ แต่จากการค้นหาก็พบว่าสถิติเด็กไทยส่วนใหญ่ที่โดนบูลลี่มัดจะอยู่ช่วงมอต้น ซึ่งส่วนตัวเราก็คิดว่าบางทีถ้าเราโดนบูลลี่มาตั้งแต่เด็กมันอาจจะส่งผลเสียในอนาคตตอนที่เราโตขึ้นได้ เราก็เลยคิดว่าทุกการเติบโตในแต่ละช่วงชีวิตของทุกคนก็ควรจะมีความทรงจำที่ดีไม่ควรมีความทรงจำที่แย่ ซึ่งในโลกยุคปัจจุบัน เด็กส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนมากกว่าอยู่ที่บ้าน เราเลยเห็นปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ เราก็เลยหยิบปัญหานี้ขึ้นมาเพื่อมาทำโปรเจคค่ะ อีกอย่างสื่อต่างๆบนโซเชียลมีเดียก็มีข่าวออกมาให้เห็นเยอะแยะ ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราควรจะปลูกฝังให้เขาตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้เขาเติบโตขึ้นมาโดยที่ไม่มีปมในใจ เพราะว่าในสมัยนี้ไม่ควรมีใครโดนบูลลี่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะอายุไหนก็ตาม

Full Interview

01:15

Q2: ไอเดียแรกก่อนออกมาเป็นโปรเจ็คล่าสุดคืออะไร?

Ans: ไอเดียแรกเลยก็คือ อาร์ตทอยค่ะ คิดไว้ว่าจะสร้างเว็บไซต์ที่ให้ทุกคนมามาสร้างอาร์ตทอยเป็นของตัวเองได้ค่ะ แต่ด้วยความสามารถหรือ ปัจจัยอื่นๆ ทำให้รู้สึกว่ามันยากเกินไป อีกอย่างปัญหาตรงนี้มันอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่มากค่ะ คือตอนแรกคิดว่าจะดีกว่าไหม ถ้าแบบ เราไม่ต้องซื้ออาร์ตทอยราคารีเชลแต่ว่าเราสร้างมันขึ้นมาเองเลย โดยความคิดสร้างสรรค์หรือไอเดียของเราเอง ซึ่งมันก็อาจจะตอบโจทย์แค่บางคนเท่านั้น เพราะว่าอาร์ตทอยเขาก็มาตามกระแสตลาด แล้วก็ผ่านไป ราคามันก็มีขึ้นๆลงๆอยู่แล้ว เราไม่สามารถไปควบคุมราคาตลาดได้ ก็เลยล้มเลิกความคิดตรงนี้ไปค่ะ

Full Interview

02:01

Q3: อุปสรรคที่หนักที่สุดที่เจอในโปรเจ็ค

Ans: ความน่าเบื่อถือของตัวคำถามที่เราเอามาวัดผลตรงนี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการโดนบูลลี่ค่ะ เพราะมันอาจจะเป็นคำถามที่อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีได้ หรือ เด็กบางคนก็ไม่อยากตอบ แล้วถ้าเราคิดมาเองโดยตรง ไม่มีข้อมูลอ้างอิงหรือรับรอง มันก็อาจจะไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ หรือ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเอามาใช้ในงานของเราค่ะ

Full Interview

03:04

Q4: วิธีฮีลใจ เพิ่มพลังในวันที่เครียด หรือหมดไฟ

Ans: ถ้าพูดถึงวิธีการให้กำลังใจตัวเองสิ่งแรกที่จะเลือกทำคือการไปกินชาบูหรือว่าเลือกทานอาหารอร่อยอร่อยเพราะเราสามารถฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้ด้วยการกินอิ่มนอนหลับนี่เรียกว่าการพักผ่อนที่ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ ส่วนวิธีเพิ่มพลังในวันที่หมดไฟ ก็อาจจะเป็นการพูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นการระบายสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราเหนื่อยเราท้อกับมันให้เค้าฟังก็อาจจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเราก็สามารถที่จะก้าวผ่านตรงนี้ไปให้ได้ค่ะ

Full Interview